กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศขับเคลื่อนนโยบาย
"ยุทธศาสตร์การปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2556 - 2561)" สู่การปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยประเด็นต่างๆ
ที่น่าสนใจ เช่น ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน พัฒนาครู ส่งเสริมการใช้ICTและพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน เพิ่มเวลาเรียน เน้นให้มีการสนทนาในห้องเรียนมากขึ้น
เรียนแบบเข้มข้น เช่น การมีค่ายฤดูร้อน เป็นต้น
และได้มีการประชุมหารือจัดทำ "แผนพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีน" ขึ้นด้วย ทั้งนี้
เพื่อต้องการพัฒนาความสามารถการใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสารของผู้เรียนคนไทย และการนำภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นไปแสวงหาความรู้ในวิชาต่างๆ
ได้ดีขึ้น เป็นยุทธศาสตร์ล่าสุดที่ทั้งผู้สอนและผู้เรียนต้องตระหนักรู้และต้องปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรมการสอนและพฤติกรรมการเรียน
เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปดังกล่าว
การที่ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศ
เช่น ภาษาจีน หรือภาษาอาเซียนอื่นๆ จะมีประสิทธิภาพตามต้องการนั้น นอกจากผู้เรียนต้องมีแรงบันดาลใจใฝ่เรียนรู้
มีความรู้ทางหลักภาษาที่ถูกต้องแม่นยำและคำศัพท์จำนวนมากเพียงพอที่จะนำไปบูรณาการในทักษะฟัง
พูด อ่าน เขียนและสื่อสารได้อย่างถูกต้อง สุภาพ และเหมาะสมกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาแล้ว
การใช้เวลาในการเรียนการฝึกฝนทั้งในและนอกชั้นเรียนอย่างจริงจังต่อเนื่องก็เป็นส่วนสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม หากโอกาสการฝึกฝนการใช้ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวันของท่านมีจำกัดเนื่องจากเหตุสุดวิสัยบางประการเช่น
การอยู่ในสังคมที่ไม่มีชาวต่างชาติ
หรือภาระงานประจำที่ไม่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ ย่อมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความรู้และประสิทธิภาพทักษะการสื่อสารลดลงอย่างไม่รู้ตัวหรือหายไปอย่างสิ้นเชิง
จึงขอแนะนำให้พยายามเรียนรู้และฝึกฝนทักษะฟังภาษาต่างประเทศด้วยตนเองเป็นประจำทุกวัน
ทั้งนี้เพราะเวลาเรียน 4
คาบ/สัปดาห์นั้นน้อยเกินไปที่จะทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการฟังภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
No comments:
Post a Comment