Saturday, March 15, 2014

บทนำ

        กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศขับเคลื่อนนโยบาย "ยุทธศาสตร์การปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2556 - 2561)" สู่การปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน พัฒนาครู ส่งเสริมการใช้ICTและพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน เพิ่มเวลาเรียน เน้นให้มีการสนทนาในห้องเรียนมากขึ้น  เรียนแบบเข้มข้น เช่น การมีค่ายฤดูร้อน เป็นต้น และได้มีการประชุมหารือจัดทำ "แผนพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีน" ขึ้นด้วย ทั้งนี้ เพื่อต้องการพัฒนาความสามารถการใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสารของผู้เรียนคนไทย และการนำภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นไปแสวงหาความรู้ในวิชาต่างๆ ได้ดีขึ้น เป็นยุทธศาสตร์ล่าสุดที่ทั้งผู้สอนและผู้เรียนต้องตระหนักรู้และต้องปรับเปลี่ยนทั้งพฤติกรรมการสอนและพฤติกรรมการเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปดังกล่าว
               การที่ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาจีน หรือภาษาอาเซียนอื่นๆ จะมีประสิทธิภาพตามต้องการนั้น นอกจากผู้เรียนต้องมีแรงบันดาลใจใฝ่เรียนรู้ มีความรู้ทางหลักภาษาที่ถูกต้องแม่นยำและคำศัพท์จำนวนมากเพียงพอที่จะนำไปบูรณาการในทักษะฟัง พูด อ่าน เขียนและสื่อสารได้อย่างถูกต้อง สุภาพ และเหมาะสมกับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาแล้ว การใช้เวลาในการเรียนการฝึกฝนทั้งในและนอกชั้นเรียนอย่างจริงจังต่อเนื่องก็เป็นส่วนสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง  อย่างไรก็ตาม หากโอกาสการฝึกฝนการใช้ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวันของท่านมีจำกัดเนื่องจากเหตุสุดวิสัยบางประการเช่น การอยู่ในสังคมที่ไม่มีชาวต่างชาติ  หรือภาระงานประจำที่ไม่ต้องใช้ภาษาต่างประเทศ ย่อมเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ความรู้และประสิทธิภาพทักษะการสื่อสารลดลงอย่างไม่รู้ตัวหรือหายไปอย่างสิ้นเชิง จึงขอแนะนำให้พยายามเรียนรู้และฝึกฝนทักษะฟังภาษาต่างประเทศด้วยตนเองเป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้เพราะเวลาเรียน 4 คาบ/สัปดาห์นั้นน้อยเกินไปที่จะทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการฟังภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

No comments:

Post a Comment